การพนันชนไก่ เรียนรู้กีฬาประเภทนี้

การพนันชนไก่ มีการพัฒนาจากอดีตสู่ปัจจุบันอยางไร

การพนันชนไก่ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญอยู่ 3 ประเด็น คือ การศึกษาการละเล่นพื้นบ้านที่พัฒนาสู่ธุรกิจการพนัน, การศึกษาวิธีการเล่นพนันที่พัฒนาจากการละเล่นไก่ชนและผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อชุมชนท้องถิ่น, รวบรวมข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อให้เกิดการกำกับดูแลการเล่นพื้นบ้านและการพนันที่ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะกรณีการละเล่นชนไก่ การพนันชนไก่ ที่ต้องแยกออกจากธุรกิจการพนัน

คณะศึกษาได้ดำเนินการศึกษาจากเอกสาร การสัมภาษณ์ การสนทนากลุ่ม รวมทั้งการสังเกตในสนามกีฬาชนไก่ การแลกเปลี่ยนกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เจ้าของไก่ เจ้าของสนามชนไก่ ผู้ชม นักพนัน ประมวลสรุปได้ดังนี้

กีฬาชนไก่เป็นการละเล่นพื้นบ้านที่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตวัฒนธรรม โดยเฉพาะวิถีชีวิตของชาวนา ดังสำนวน “เสร็จจากการทำนา กัดปลา ชนไก่ ชกมวย และแข่งเรือยาว” ชนไก่มีความเกี่ยวพันกับมิติทางประวัติศาสตร์ เกี่ยวพันกับการสร้างเอกลักษณ์ประจำจังหวัด บางส่วนเป็นอาชีพหลักในชุมชน แบ่งไก่เป็น 2 ประเภทคือ 1 ไก่งาม (ลักษณะดี) 2 ไก่ชน (ไก่ชนเก่ง) และไก่ประเภทที่ 2 พัฒนาสู่การพัฒนาเป็นธุรกิจการพนันชนไก่ในปัจจุบัน มีการรวมกลุ่มสร้างเป็นเครือข่ายการสื่อสารกันภายในกลุ่มผู้สนใจกีฬาชนไก่และการพนันชนไก่ในภาคเหนือตอนล่าง 5 จังหวัด จากการสำรวจเบื้องต้นมีจำนวนสนามชนไก่จำนวน 21 แห่ง

การชนไก่พัฒนาการจาก 1 การชนไก่ การพนันชนไก่ ในหมู่เพื่อนบ้าน เดิมพันเพื่อความสนุกสนาน เช่น การเลี้ยงข้าว เลี้ยงเหล้า การคัดพันธุ์ไก่ที่แข็งแรงที่เก็บไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์ในระยะยาว 2 การชนไก่ระหว่างหมู่บ้าน ระหว่างคุ้ม ซึ่งมีการพนัน (การเดิมพัน) เข้ามาเกี่ยวข้อง เริ่มต้นจากเดิมพันจำนวนเงินไม่มากนัก 3 การชนไก่ที่มีสถานที่และขอบเขตที่ชัดเจน มีชื่อเรียกตกต่างกัน สนามกีฬาชนไก่, บ่อนชนไก่, สังเวียนชนไก่, สนามประลองไก่ มีกฎ กติกา ระเบียบ มีความเกี่ยวพันกับการพนันที่ครบวงจร มีกลุ่มคนเกี่ยวข้อง เจ้าของไก่ ผู้กราดน้ำ กรรมการสนาม เจ้าของสนาม ผู้ชม(นักพนัน) มีธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง, ค่าอาหาร, ค่าจอดรถ รวมทั้งเกี่ยวพันกับการจ่ายค่าตอบแทนให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เป็นการให้ค่าตอบแทนเพื่ออำนวยความสะดวก ในขณะที่ธุรกิจการชนไก่จะมีการปฏิบัติที่ผิดกฎหมาย เช่น เปิดเกินเวลา การเล่นการพนัน

สนามไก่ชนแต่ละสนามเป็นอย่างไร

สนามชนไก่มีเงินทุนหมุนเวียนตามขนาดของสนามที่แตกต่างกัน คือสนามขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่มีเงินหมุนเวียนตั้งแต่ 50,000 – 500,000บาท แตกต่างตามขนาดของสนามชนไก่ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพนันชนไก่ การลงทุนในการเลี้ยง การลงทุนในการขออนุญาต การก่อสร้างสนามชนไก่ การดูแลรักษาวัสดุอุปกรณ์ แล้วแต่ขนาดของสนามชนไก่ รวมทั้งธุรกิจการขายอาหาร เครื่องดื่ม วัสดุอุปกรณ์เลี้ยงๆไก่ ยารักษาโรค ต้นทุนในการเปิดสนามกีฬาชนไก่โดยเฉพาะค่าใบอนุญาต 430,000บาทและ ต้นทุนอื่นๆ 1,156,๐๐๐ – 1,256,๐๐๐ บาท
ประเภทของการพนันชนไก่ แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท การพนันแบบต่อรองและการพนันแบบวางเดิมพัน มียอดเงินเดิมพัน 32,000-80,000 บาท/เดือน หรือประมาณ 384,000-960,000 บาทต่อปีในสนามชนไก่ขนาดเล็ก และ 400,000-500,000 บาท/เดือน หรือประมาณ 4,800,000-6,000,000 บาทต่อปีในสนามชนไก่ขนาดใหญ่

ในส่วนของการต่อรองภายนอก การพนันชนไก่ มีการเล่นการพนันที่หมุนเวียนในผู้ชม(ผู้เล่นการพนัน) 528,000 บาท/เดือน หรือ 6,336,๐๐๐ บาท/ปีในสนามชนไก่ชุมชน และ จำนวน 52,640,000 บาท/เดือน หรือ 730,680,000 บาท/ปีในสนามชนไก่แบบธุรกิจในระดับจังหวัด
ข้อดีและข้อเสียการเล่นการพนันชนไก่ ข้อดีการทำให้เกิดวงสังคมกว้างขวางขึ้น เข้าใจการรู้แพรู้ชนะ ยอมรับกฎกติการะเบียบ ข้อเสียสังคมไทยส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ การเสียการเดิมพัน เสียเวลา มิติทางครอบครัวลดลง การชนไก่ในมุมมองของสังคมชุมชนมิใช่การละเล่นพื้นบ้านเป็นมิติของการพนันในปัจจุบัน

การเปลี่ยนแปลงไปของ การพนันชนไก่ จากการชนไก่เพื่อเป็นพื้นที่สันทนาการของคนในชุมชน ไม่หวังผลทางเศรษฐกิจให้เกิดความสัมพันธ์ในชุมชนท้องถิ่น และเพื่อความสนุก เปลี่ยนมาสู่เป้าหมายทางด้านธุรกิจ ทำให้เกิดระบบการรวมอำนาจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตำรวจ ปศุสัตว์ การพัฒนาสายพันธุ์ที่เป็นการเข้าสู่ธุรกิจการพนันโดยเฉพาะ รวมทั้งการที่จะโกงเพื่อให้ฝ่ายตนเองชนะการพนัน
ธุรกิจการพนันชนไก่แบบครบวงจร มีกลุ่มคนหลากหลายอาชีพมาเกี่ยวข้อง มีเป้าหมายเชิงธุรกิจเป็นหลัก มีกลุ่มนักพนัน คนเลี้ยง สนามกีฬาชนไก่เพื่อธุรกิจการพนันเฉพาะ มีอาชีพเกี่ยวกับการพนันชนไก่โดยเฉพาะเกี่ยวกับอำนาจรัฐ อำนาจเงิน อำนาจเถื่อนเข้ามาเกี่ยวข้อง

การพนันชนไก่

การพนันชนไก่ ความสัมพันธ์เชิงอำนาจในการพนันชนไก่เป็นแบบไหน

ความสัมพันธ์เชิงอำนาจในการพนันชนไก่

1.สนามชนไก่ระดับพื้นที่มีความสัมพันธ์ 2 แบบคือ 1 ความสัมพันธ์แนวดิ่ง เป็นความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของสนามชนไก่ กับเจ้าหน้าที่ส่วนการปกครองส่วนท้องถิ่น, เจ้าหน้าที่รัฐ และนักการเมือง 2 ความสัมพันธ์แนวราบ เป็นความสัมพันธ์ระหว่างคนเลี้ยงไก่ด้วยกันเอง และความสัมพันธ์ระหว่างคนเลี้ยงไก่ กับคนที่มาด้วยกัน

2.สนามชนไก่แบบธุรกิจมีความสัมพันธ์ 3 แบบคือ ความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ ส่วนปกครองท้องที่ ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของบ่อน กับเจ้าหน้าที่รัฐ และความสัมพันธุ์ระหว่าง เจ้าของบ่อนกับนักการเมือง
ความสัมพันธ์ในสนามชนไก่แบบธุรกิจ จะเกิดการเอื้อผลประโยชน์ทางธุรกิจมากกว่า การพนันชนไก่สู่การพัฒนา ความสัมพันธ์ในมิติอื่น

ข้อเสนอแนะ

1.การพัฒนาการเลี้ยงไก่ชน การละเล่นพื้นบ้านให้แยกออกจากธุรกิจการพนัน ที่จะทำให้เกิดอาชีพ เกิดการพัฒนาการละเล่นพื้นบ้าน รวมทั้งการปรับปรุงพันธุ์ของไก่ชน

2.ให้มีการดำรงอยู่ การชนไก่เพื่อการละเล่นที่ทำให้เกิดความสัมพันธ์ในชุมชน, พื้นที่สันทนาการของชุมชน

3.การอนุญาตการเล่นกีฬาชนไก่ระยะยาวให้ถูกต้องตามกฎหมายที่จะไม่เปิดช่องทางให้เกิดการคอรัปชั่นในระบบราชการโดยเฉพาะขั้นตอนอนุญาติการเปิดสนามกีฬาชนไก่

4.การสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการควบคุมการดำเนินการของกีฬาไก่ชน

5.ให้มีพระราชบัญญัติรองรับการละเล่นพื้นบ้านที่แตกต่างกับพระราชบัญญัติการพนัน

6.แก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 และระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพนันชนไก่และกัดปลา พ.ศ.2552

ศัพท์ไก่ชนเรียกกันและมีความหมายอย่างไรบ้าง

ไก่รองบ่อน หมายถึงไก่ชนที่ทางบ่อนจัดหาไว้เผื่อจำเป็นต้องนำมาชน คงคล้ายกับมวยแทน แต่บ่อยครั้งที่ไก่รองบ่อนก็พลิกเ อาชนะได้ เพราะอาจเป็นไก่ที่ซุ่มซ้อมคอยหาคู่ที่ประมาท หรืออยากลองของ ไก่รองบ่อนส่วนใหญ่เจ้าของบ่อนหาเตรียมไว้ เผื่อแก้ขัดหรือจะมีหมูมาวิ่งชนปังตอ

ไก่รอยเล็ก คือไก่ขนาดเล็ก น้ำหนักไม่เกิน 3 กิโลกรัม

ไก่รอยใหญ่ คือไก่ขนาดใหญ่ น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 3 กิโลกรัม และถ้าหนัก 3 กิโลกรัมครึ่งถึง 4 กิโลกรัมเรียกว่า ไก่ได้รอย ปัจจุบันในภาคกลาง ภาคตะวันออก และอีสานนิยมไก่รอยใหญ่

ปล้ำไก่ อันนี้ต้องเข้าใจให้ดีมิได้หมายความว่า เอาไก่มาปล้ำกับคนแบบมวยปล้ำ หรือปลุกปล้ำไก่ แต่เป็นการนำไก่มาทดลองซ้อมชนกัน แต่ต้องมีเครื่องป้องกันอันตราย เช่นต้องพันแข้งพันเดือย ทั้งนี้ก็เพื่อทดสอบความแข็งแกร่ง ดูชั้นเชิงเพื่อคัดเกรด คัดพันธุ์ แหล่งจำหน่ายไก่ชนมักนิยมให้มีการปล้ำไก่ ให้ลูกค้าดูก่อนตกลงซื้อขายกัน เมื่อ ลูกคัาพอใจ และผู้ขายก็ได้ราคาดี

ไก่ตั้ง คือไก่ที่ชอบยืนโด่โจ้แลกกัน ไม่มีชั้นเชิง เป็นมวยก็ประเภทแรมโบ้

ไก่ลง คือไก่ที่ชอบมุมต่ำมุดตี ชอบอยู่ล่างใต้อกคู่ต่อสู้ ใช้ชั้นเชิงเมื่อคู่ต่อสู้เผลอ หรือเสียหลักก็จะเข้าทำทันที

ตีหัก คือไก่ที่ตีคู่ต่อสู้จนมีอาการทรุด ตัวเกร็งหรือล้ม โดนเข้าไปแล้วฟื้นตัวยาก

ตีชัก คือไก่ที่ตีคู่ต่อสู้จนชักดิ้น ออกอาการวิ่งหรือกระโดด แต่ยังพอมีโอกาสฟื้นตัวถ้าหากมีธาตุทรหดใจสู้ น้ำเลี้ยงดีปากถึงตีนถึงคือไก่ที่ปากเร็ว สามารถจิกตีคู่ต่อสู้ได้รวดเร็ว ประเภทจิกปุ๊ปตีปั้ปไม่ต้องแต่งตัวนาน

ลงเหล่า หมายถึงไก่ที่เกิดมารูปร่างสีสัน ลักษณะเด่นความเก่งชั้นเชิงเหมือนบรรพบุรุษ วงการถือว่าไก่ที่ลงเหล่าแล้วจะเก่ง

ชนเหล่า คือไก่สายเลือดเดียวกัน ชั้นเชิงคล้ายกัน จึงแพ้ชนะกันยาก นักเลงไก่บางคนหวงสายพันธุ์ก็ด้วยเกรงว่า จะย้อนกลับมาตีกันเองหรือชนเหล่า

 

อ่านเพิ่มเติม>>>สูตรเล่นพนัน